วางแผนครอบครัวก่อนตั้งครรภ์
การมีลูกกับเขาสักคน หากไม่อยากที่จะทำให้เกิดเป็นปัญหาในอนาคต เราจำเป็นจะต้องคิดวางแผนก่อนว่า จะจัดการกับอนาคตของตัวเองและลูกอย่างไร เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมานั่งปวดหัวเอาทีหลัง
ช่วงเวลาในการคลอด
เราควรกำหนดช่วงเวลาในการคลอดของเราคร่าวๆ ว่าน่าจะให้ลูกเกิดมาในช่วงไหน ถึงจะสะดวกต่อการเลี้ยงดูที่สุด ซึ่งแต่ละบ้านก็จะมีช่วงเวลาที่แตกต่างกันไป เพราะบางบ้านช่วงปีใหม่จะว่าง บางบ้านช่วงปีใหม่จะยุ่ง การวางแผนจะมีลูกช่วงไหนก็พอจะเลือกได้เหมือนกัน
เราควรจะกะเวลา แล้วปล่อยให้มีลูกก่อนหน้าเวลาที่กำหนดที่จะตั้งครรภ์สัก 1-2 เดือน อย่างเช่น หากว่าเราอยากจะให้ลูกคลอดในเดือนพฤศจิกายน เราก็ควรจะปล่อย ไม่คุมกำเนิดในช่วงเดือนมกราคม เป็นต้น
ซึ่งหากว่าเราต้องการคำแนะนำที่แน่นอนกว่านั้น เราก็อาจจะไปขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญหรือว่าแพทย์ได้ เพื่อที่จะวางแผนชีวิตได้อย่างถูกต้องเหมาะสมยิ่งขึ้นไป
ระยะเวลาในการเลี้ยงลูก
ในยุคที่ทั้งพ่อและแม่ต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัวด้วยกันทั้งคู่ ทำให้เราจะต้องคำนวณระยะเวลาในการเลี้ยงลูกน้อยก่อนที่จะคลอดว่าเราสามารถลางานได้เท่าไร หรือหากว่าตัดสินใจจะออกจากงานมาเลี้ยงลูกเลยจะมีผลกระทบต่อครอบครัวหรือไม่อย่างไร ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจของครอบครัว การตกลงระหว่างเรากับสามี และข้อตกลงระหว่างเรากับนายจ้าง ซึ่งจะต้องคุยและปรึกษากันให้ดี เพราะหากว่าไม่พูดคุยกันมาก่อน ลูกของเราอาจจะเกิดมาพร้อมกับปัญหาก็ได้ การเตรียมพร้อมเอาไว้ก่อนก็เป็นการดีไม่ใช่น้อย
เมื่อรู้ตัวว่าท้องควรบอกที่ทำงาน
แม้ว่าการตั้งท้องเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่อย่าลืมว่าในที่ทำงานคนที่ทำงานย่อมได้รับผลกระทบจากการที่เราตั้งท้อง เพราะว่าแม้ว่าเรายังมาทำงานได้ แต่แน่นอนว่าเราไม่สามารถทำงานหนัก และทำงานที่เต็มไปด้วยความเครียดได้เหมือนแต่ก่อน ทำให้เพื่อนร่วมงานที่เหลือจะต้องทำงานหนักขึ้น ซึ่งก็อาจจะให้ใครหลายคนไม่พอใจได้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้านาย เราควรหาโอกาสเดินเข้าไปหาและบอกข่าวนี้ให้รู้ อย่าปล่อยให้เพื่อนร่วมงานและเจ้านายทราบเอาเองจากการที่เราใส่ชุดคลุมท้องแล้ว จะทำให้เคืองใจกันเปล่าๆ